พัทยาปาร์ค | |
อีกสถานที่หนึ่งในพัทยาที่มีชื่อเสียงมานานก็คือพัทยาปาร์ค
ที่ซี่งมีหอคอยสูงตั้งอยู่ระหว่างเมืองพัทยากับหาดจอมเทียนทำให้มองเห็นได้จากหลาย ๆ
ที่เลย โดยที่บนยอดหอคอยนั้นนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวของเมืองพัทยาได้ด้วย
หรือใครที่ต้องการโดดหอจากบนยอดหอคอยก็ทำได้เช่นกัน
แต่ไม่ใช่ว่าพัทยาปาร์คจะนำเสนอแค่กิจกรรมบนหอคอยนะ เพราะยังมีกิจกรรมอื่น ๆ
ที่ภาคพื้นดินด้วย อย่างเช่น รถไฟเหาะ ทาวเวอร์ช็อต และสวนน้ำ
เป็นต้น
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวที่พัทยาปาร์คแห่งนี้ น่าจะมาจากหอคอยสูงเสียดฟ้ากว่า 55 ชั้น ที่ซึ่งมีพื้นที่ให้ขึ้นไปเยี่ยมชมวิวทิวทัศน์ได้ (แต่ต้องเสียเงินนะ) เมื่อขึ้นไปแล้วนักท่องเที่ยวต้องเลือกว่าจะกลับลงมาแบบไหน สำหรับคนใจถึงมากหน่อยก็คงต้องเป็นกระโดดหอ แต่ที่จริงก็มีอุปกรณ์เซฟตี้พร้อมอยู่แล้ว อีกทางเลือกหนึ่งกรณีลงเป็นกลุ่มก็สามารถลงมาด้วยพาหนะคล้าย ๆ ยานอวกาศ ก็สามารถลงมาที่พื้นได้เช่นกัน แต่หากใครจะลงมาด้วยลิฟต์ก็ได้เช่นกันนะ ที่ชั้น 52 53 และ 54 ก็มีอาหารให้รับประทานด้วย หากใครอยากกินอาหารแบบบรรยากาศดี ๆ ชมวิวทิวทัศน์สวย ๆ ก็ลองดูที่นี่ได้ อีกทั้งยังมีบุฟเฟต์อาหารทะเลเป็นตัวเลือกด้วย แต่หากต้องการทานบุฟเฟต์ก็จะต้องเสียเงินค่าบุฟเฟต์ต่อคนแบบร้านอาหารแนวนี้ร้านอื่น ๆ พัทยาปาร์คยังมีกิจกรรมท้าทายความตื่นเต้นอย่าง ทาวเวอร์ชอร์ต เรือไวกิ้ง และรถไฟเหาะด้วย หากใครชอบเล่นเครื่องเล่นในลักษณะนี้ สามารถไปทดลองได้เวลามาเยี่ยมเยียนพัทยา แต่สำหรับเด็ก ๆ ก็ไม่ต้องกังวลเพราะว่ามีเครื่องเล่นสำหรับเด็ก ๆ เช่นกัน เพราะฉะนั้นการไปเที่ยวที่พัทยาปาร์คสามารถทำกิจกรรมได้ทั้งครอบครัว โดยที่ปกติการเล่นกิจกรรมต้องซื้อ package เครื่องเล่นมาที่จุดขายในพัทยาปาร์คนี้มาด้วย และนอกจากกิจกรรมท้าทายความตื่นเต้นแล้ว สวนน้ำยังเป็นอีกที่หนึ่งที่สามารถเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจได้ดีเช่นกัน หากใครต้องการไปเที่ยวพัทยาปาร์คล่ะก็ ให้สังเกตุหอคอยสูง ๆ เป็นหลัก อยู่ใกล้ ๆ กับเขาพัทยานี่เอง หาได้ไม่ยากเลยจริง ๆ แหล่งอ้างอิง http://www.pattayaconcierge.com/th/specified-place/%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%84/200800000090/attraction/ |
วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
พัทยาปาร์ค
อุทยาแห่งชาติภูเรือ อ.ภูเรือ
อุทยาแห่งชาติภูเรือ อ.ภูเรือ
มีลักษณะแปลกคือมีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือหัวเรือสำเภา ลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสลับซับซ้อนประกอบด้วยเขาหินทรายและหินแกรนิตสลับกันสัตว์ป่าที่พบเห็น ได้แก่ หมี เก้ง หมาใน ไก่ฟ้าพญาลอ เต่าปูลู อุทยานภูเรืออยู่บนยอดเขาสูงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปีและเป็นอุทยานที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดในประเทศ จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้าแข็งตัวกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งซึ่งภาษาพื้นบ้านเรียกว่า “ แม่คะนึ้ง ”อุทยานฯมีเนื้อที่ประมาณ 75,525 ไร่ ช่วงเดือนที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวคือ เดือน ตุลาคม-มีนาคม
สถานที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ ได้แก่ จุดชมทิวทัศน์เดโช เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในวันที่อากาศดีนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูต่างๆของเมืองเลยได้ ผาโหล่นน้อย อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมากจากจุดนี้จะมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่ง และทะเลภูเขาสลับซับซ้อน ผาซับทอง หรือ ผากุหลาบ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 2.5 กิโลเมตร เป็นหน้าผาสูงชันและแหล่งน้ำซับที่มีพืชน้ำไลเคนสีเหลืองคล้ายสีทองขึ้นเต็มอยู่ทั่วบริเวณ น้ำตกห้วยไผ่ ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันมีความสูงประมาณ 30 เมตร น้ำตกแห่งนี้นำไปใช้ทำเป็นประปาในอำเภอภูเรือด้วย ยอดภูเรือ เป็นจุดที่สูงสุดในอุทยานฯอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,365 เมตรบริเวณโดยรอบเป็นลานหินที่มีทุ่งหญ้าขึ้นแซมสลับกับป่าสน มีทั้งสนสองใบที่ขึ้นตามธรรมชาติ และสนสามใบที่เป็นสนปลูก จากจุดนี้ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขงซึ่งเป็นพรมแดนกั้นระหว่างไทย – ลาวได้ นอกจากนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น ถ้ำหินแตก หินค้างหม้อ หินวัวนอน
หินพานขันหมาก หินพระศิวะ สวนหินเต่า ทุ่งหินเหล็กไฟ ซึ่งหินเหล่านี้มีรูปร่างตามชื่อเรียกตั้งท่ามกลางทุ่งหญ้า ช่วงปลายฝนต้นหนาวมีดอกไม้เล็กๆขึ้นอยู่ทั่วไปน่าชมมาก
สถานที่พัก อุทยานฯ มีบริการบ้านพักไว้สำหรับนักท่องเที่ยวติดต่อขอรายละเอียดและสำรองที่พักล่าวงหน้าได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ โทร. 042-807624, 042-801716 ,042-807607หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 02-5620760 หรือ www.dnp.go.th
การเดินทาง จากตัวเมืองเลยใช้ทางหลวงหมายเลข 203 สาย เลย- ภูเรือ ระยะทางประมาณ 54 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 49-50 ตรงที่ว่าการอำเภอภูเรือเข้าไปประมาณ 4 กิโลเมตร รถยนต์ทั่วไปสามารถขึ้นได้ และมีทางเดินเท้าอีก 700 เมตร ก็จะถึงยอดภูเรือ
แหล่งอ้างอิง http://loei.mots.go.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=538755645&Ntype=12
มีลักษณะแปลกคือมีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือหัวเรือสำเภา ลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสลับซับซ้อนประกอบด้วยเขาหินทรายและหินแกรนิตสลับกันสัตว์ป่าที่พบเห็น ได้แก่ หมี เก้ง หมาใน ไก่ฟ้าพญาลอ เต่าปูลู อุทยานภูเรืออยู่บนยอดเขาสูงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปีและเป็นอุทยานที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดในประเทศ จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้าแข็งตัวกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งซึ่งภาษาพื้นบ้านเรียกว่า “ แม่คะนึ้ง ”อุทยานฯมีเนื้อที่ประมาณ 75,525 ไร่ ช่วงเดือนที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวคือ เดือน ตุลาคม-มีนาคม
สถานที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ ได้แก่ จุดชมทิวทัศน์เดโช เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในวันที่อากาศดีนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูต่างๆของเมืองเลยได้ ผาโหล่นน้อย อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมากจากจุดนี้จะมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่ง และทะเลภูเขาสลับซับซ้อน ผาซับทอง หรือ ผากุหลาบ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 2.5 กิโลเมตร เป็นหน้าผาสูงชันและแหล่งน้ำซับที่มีพืชน้ำไลเคนสีเหลืองคล้ายสีทองขึ้นเต็มอยู่ทั่วบริเวณ น้ำตกห้วยไผ่ ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันมีความสูงประมาณ 30 เมตร น้ำตกแห่งนี้นำไปใช้ทำเป็นประปาในอำเภอภูเรือด้วย ยอดภูเรือ เป็นจุดที่สูงสุดในอุทยานฯอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,365 เมตรบริเวณโดยรอบเป็นลานหินที่มีทุ่งหญ้าขึ้นแซมสลับกับป่าสน มีทั้งสนสองใบที่ขึ้นตามธรรมชาติ และสนสามใบที่เป็นสนปลูก จากจุดนี้ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขงซึ่งเป็นพรมแดนกั้นระหว่างไทย – ลาวได้ นอกจากนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น ถ้ำหินแตก หินค้างหม้อ หินวัวนอน
หินพานขันหมาก หินพระศิวะ สวนหินเต่า ทุ่งหินเหล็กไฟ ซึ่งหินเหล่านี้มีรูปร่างตามชื่อเรียกตั้งท่ามกลางทุ่งหญ้า ช่วงปลายฝนต้นหนาวมีดอกไม้เล็กๆขึ้นอยู่ทั่วไปน่าชมมาก
สถานที่พัก อุทยานฯ มีบริการบ้านพักไว้สำหรับนักท่องเที่ยวติดต่อขอรายละเอียดและสำรองที่พักล่าวงหน้าได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ โทร. 042-807624, 042-801716 ,042-807607หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 02-5620760 หรือ www.dnp.go.th
การเดินทาง จากตัวเมืองเลยใช้ทางหลวงหมายเลข 203 สาย เลย- ภูเรือ ระยะทางประมาณ 54 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 49-50 ตรงที่ว่าการอำเภอภูเรือเข้าไปประมาณ 4 กิโลเมตร รถยนต์ทั่วไปสามารถขึ้นได้ และมีทางเดินเท้าอีก 700 เมตร ก็จะถึงยอดภูเรือ
แหล่งอ้างอิง http://loei.mots.go.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=538755645&Ntype=12
สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 1. Stonehenge
สุดยอด สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ต้องยกให้ สโตนเฮนจ์ กลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่ บนที่ราบ Salisbury บริเวณตอนใต้ของเกาะอังกฤษ ประกอบด้วยแท่งหินขนาดยักษ์ 112 ก้อน ที่มาของ สโตนเฮนจ์ ยังไม่มีบทสรุปที่แท้จริง มีเพียงข้อสันนิษฐานมากมาย นักโบราณคดีเชื่อว่า กองหินนี้ถูกสร้างขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง เมื่อประมาณ 3000 – 2000 ปี ก่อนคริสตกาล โดยการคำนวณอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี นักวิทยาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าแท่งหินยักษ์ทั้งหมดถูกชักลากมาจากที่อื่น เนื่องจากที่ราบบริเวณนั้นไม่มีหิน ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจาก “ทุ่งมาร์ลโบโร” ที่อยู่ห่างออกไป 40 กิโลเมตร แต่ก็มีความเชื่อไปในทางเดียวกันว่า สโตนเฮนจ์ น่าจะถูกสร้างขึ้นเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของคนในยุคโบราณ ด้วยความอัศจรรย์และความลึกลับที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัด สโตนเฮนจ์ จึงถูกยกให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
แหล่งอ้างอิง http://travel.mthai.com/world-travel/33721.html
หอนาฬิกาพระราชวังเวสต์มินสเตอร์
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 2. Big Ben
หอนาฬิกาพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ หรือรู้จักกันดีในชื่อของ บิ๊กเบน หอเก่าแก่นี้ถูกสร้าง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2377 หลังจากไฟไหม้พระราชวังเวสต์มินสเตอร์เดิม แท้จริงแล้ว บิ๊กเบน ไม่ใช่ชื่อหอนาฬิกา แต่เป็นชื่อของ ระฆังหนัก 13 ตัน ซึ่งแขวนอยู่ตรงช่องลมเหนือหน้าปัดนาฬิกา และคำว่า บิ๊กเบน นั้นนำมาจากชื่อของ เซอร์ Benjamin Hall ชายคนแรกที่สั่งซื้อระฆัง Big Ben มีความสูง 96.3 เมตร เป็นหอนาฬิกาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก และกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งอังกฤษ ทั้งยังปรากฏในภาพยนตร์หลายเรื่อง
แหล่งอ้างอิง http://travel.mthai.com/world-travel/33721.html
สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 3. Windsor Castle
สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ที่คุ้นชื่อกันดี พระราชวังวินด์เซอร์ เป็นหนึ่งในที่ประทับของ Queen Elizabeth ที่สอง ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และถือเป็นพระราชฐานที่ยังมีผู้อยู่อาศัยที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก พระมหากษัตริย์และกษัตรีย์แห่งอังกฤษเกือบทุกพระองค์มีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างและพัฒนา พระราชวังวินด์เซอร์ จากประวัติตามรัชสมัยต่างๆ ในยามสงบจากศึก พระราชวังวินด์เซอร์ ถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ ในยามสงคราม พระราชวังวินด์เซอร์ จะถูกใช้เป็นป้อมปราการด้วยการสร้างเสริมอย่างแน่นหนา และระบบนี้ยังคงใช้สืบเนื่องมาจนปัจจุบัน
แหล่งอ้างอิง http://travel.mthai.com/world-travel/33721.html
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 4. York Minster
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 4. York Minster
แหล่งอ้างอิง http://travel.mthai.com/world-travel/33721.html
มหาวิหารเดอรัม
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 5. Durham Cathedral
แหล่งอ้างอิง http://travel.mthai.com/world-travel/33721.html
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 6. The Cotswolds
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 6. The Cotswolds
แหล่งอ้างอิง http://travel.mthai.com/world-travel/33721.html
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 7. Tower of London
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 7. Tower of London
แหล่งอ้างอิง http://travel.mthai.com/world-travel/33721.html
อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 8. Lake District
แหล่งอ้างอิง http://travel.mthai.com/world-travel/33721.html
ปราสาทวอริค
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 9. Warwick Castle
ปราสาทวอริค โครงสร้างเดิมเป็นไม้ สร้างโดย สมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ ใน ปีค.ศ. 1068 และได้รับการบูรณะใหม่ โดยปรับเปลี่ยนโครงสร้างเป็นหินในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ช่วงสงครามร้อยปี ด้านหน้าของ ปราสาทวอริค ที่หันตรงข้ามกับเมือง ก็ได้รับการเสริมสร้างให้แข็งแรงขึ้น ทำให้ ปราสาทวอริค กลายเป็นที่จดจำว่าเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมทางการทหารในคริสต์ศตวรรษที่ 14 เมื่อปี ค.ศ. 2001 ปราสาทวอริค ถูกขนานนามว่าเป็น 1 ใน 10 ของอนุสรณ์สถานแห่งประวัติศาสตร์ชาติ และเป็นหนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุด
แหล่งอ้างอิง http://travel.mthai.com/world-travel/33721.html
กำแพงเฮเดรียน
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 10. Hadrian’s Wall
กำแพงเฮเดรียน (Hadrian’s Wall) สร้างขึ้นโดยชาวโรมัน จุดประสงค์เพื่อปกป้องอาณานิคมจากการรุกรานของชนเผ่าสก็อตแลนด์ มีความยาว 117 เมตร พาดขวางแนวตอนเหนือของเกาะอังกฤษ ตั้งแต่ทะเลไอริชจนถึงทะเลเหนือ กำแพงเฮเดรียน เริ่มสร้างในรัชสมัยของจักรพรรดิเฮเดรียนในปี ค.ศ. 122 เสร็จสมบูรณ์ภายในเวลา 6 ปี ปัจจุบัน มีเพียงกำแพงส่วนกลางที่ยังคงปรากฏให้เห็น สามารถเดินได้ตลอดแนวกำแพง ด้วยความเก่าแก่และสวยงาม กำแพงเฮเดรียน จึงเป็นหนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และจดทะเบียนเป็น มรดกโลก ในปี ค.ศ. 1987
แหล่งอ้างอิง http://travel.mthai.com/world-travel/33721.html
ท่าอัลเบิร์ต
ท่าอัลเบิร์ต (Albert Dock)
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในเมืองลิเวอร์พูล โดยบริเวณท่าเรือนั้นประกอบไปด้วยอาคารท่าเรือและคลังสินค้า
นอกจากนี้แล้วท่าอัลเบิร์ตยังเป็น สถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนเข้าชมมากที่สุดในสหราชอาณาจักรอีกด้วย
แหล่งอ้างอิง http://www.liverpoolthailand.com/forum/index.php?showtopic=75531
ตึกรอยัลลิเวอร์
ตึกรอยัลลิเวอร์ (Royal Liver Building)
อีกหนึ่งอาคารที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ และมีชื่อเสียงมากเป็นอันดับต้นๆของเมืองลิเวอร์พูล
โดยตึกนั้นตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือใหญ่ , ตึกคูนาร์ด และอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก
แหล่งอ้างอิง http://www.liverpoolthailand.com/forum/index.php?showtopic=75531
หอประชุมเซนต์จอร์จ
หอประชุมเซนต์จอร์จ (St George's Hall)
อีกหนึ่งอาคารที่มีชื่อเสียงซึ่งตั้งอยู่บนถนนลิม (Lime Street)ใกล้สถานีรถไฟ เป็นอีกหนึ่งอาคารที่สร้างขึ้นในสไตล์นีโอคลาสสิค (Neoclassical style)
และปัจจุบันได้รับการยอมรับให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกของลิเวอร์พูล
แหล่งอ้างอิง http://www.liverpoolthailand.com/forum/index.php?showtopic=75531
วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
สถานีรถไฟลิเวอร์พูล
สถานีรถไฟลิเวอร์พูล ลิม สตรีท (Liverpool Lime Street railway station)
เป็นสถานีรถไฟที่ให้บริการในใจกลางเมืองลิเวอร์พูล อีกท้งยังถือว่าเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในลิเวอร์พูลอีกด้วย
แหล่งอ้างอิง http://www.liverpoolthailand.com/forum/index.php?showtopic=75531
ลิเวอร์พูล ฮอลล์ทาวน์
ลิเวอร์พูล ฮอลล์ทาวน์ (Liverpool Town Hall)
อีกหนึ่งอาคารที่มีชื่อเสียง ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่าง 1749 - 1754 ถูกใช้เป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของนายกเทศมนตรีเมืองลิเวอร์พูล
เป็นอาคารที่สร้างขึ้นด้วยหินอย่างหรูหรา ถูกใช้ในการจัดงานสำคัญๆต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การทำงาน ทัวร์ งานแต่งงาน และอื่นๆ
แหล่งอ้างอิง http://www.liverpoolthailand.com/forum/index.php?showtopic=75531
มหาวิหารลิเวอร์พูล
มหาวิหารลิเวอร์พูล (Liverpool Cathedral) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเป็นจำนวนมาก
โดยวิหารถูกสร้างขึ้นบนเนินเขาเซนต์เจมส์ (St James's Mount) ด้วยอาคารที่มีความยาว นั่นจึงทำให้มหาวิหารลิเวอร์พูลเป็นโบสถ์ที่ยาวที่สุดในโลก
คือมีความยาวภายนอกอาคาร คือ 189 เมตร (620 ฟุต) และมีความยาวภายในอาคาร คือ 146 เมตร (479 ฟุต)
แหล่งอ้างอิง http://www.liverpoolthailand.com/forum/index.php?showtopic=75531
สเปคก์ ฮอลล์
สเปคก์ ฮอลล์ (Speke Hall) เป็นกลุ่มคฤหาสน์ไม้ที่สร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ทิวดอร์ (Tudor) ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1530 แล้วเสร็จในปี ค.ศ.1598
ปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนไปเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และอื่นๆ
แหล่งอ้างอิง http://www.liverpoolthailand.com/forum/index.php?showtopic=75531
จาก โจ ฟาแกน ถึง คิง เคนนี่ liverpool
โจ เฟแกน คือผู้จัดการทีมต่อจากบ็อบ เพสลี่ย์ ซึ่งในการคุมทีมของเขาได้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น มีผู้เสียชีวิต 39 คนจากการที่ทีมลิเวอร์พูลแพ้ทีมยูเวนตุส 1-0 จากลูกจุดโทษ ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโรเปี้ยน คัพ ที่สนามเฮย์เซล สเตเดี้ยม ในกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม
บ็อบ เพสลี่ย์ ผู้สืบทอดของแชงค์ลี่ย์
แต่หลังจากอังกฤษคว้าแชมป์โลก บิลล์ แชงค์ลี่ย์ ก็ประกาศลาออกจากตำแหน่งในปี 1973 หลังจากพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพได้ในปี 1972 โดยมีบ๊อบ เพสลี่ย์ มีขวาของเขามารับช่วงต่อแทน และบ๊อบใช้เวลาเพียง 4 ปี ในการพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพเป็นครั้งแรกได้สำเร็จ และในปีต่อมาเขาก็พาลิเวอร์พูลประกาศความยิ่งใหญ่อีกครั้งเมื่อพาทีมคว้าดับ เบิ้ลแชมป์ จากดิวิชั่น 1 และยูโรเปี้ยน คัพ มาครอง อีกทั้งยังคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพมาได้อีก 2 ครั้งในปี 1981 และ 1984 ก่อนที่บ็อบ เพสลีย์จะลาออกจากตำแหน่งhttp://www.lfcthailand.com/history.php
ผู้จัดการคนแรก บิล แชงค์ลี่ย์
ในช่วงศตวรรษที่ 20-50 ลิเวอร์พูลไม่ใช่ทีมที่ยิ่งใหญ่อย่างที่คาดไว้ เพราะทีมยังต้องขึ้นๆ ลงๆ อยู่เป็นประจำระหว่างดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 จนในปีค.ศ. 1954 ลิเวอร์พูลต้องลงไปเล่นอยู่ในดิวิชั่น 2 นานกว่าปกติและก็ยังไม่มีผู้จัดการคนไหนสามารถพาทีมกลับขึ้นมาสู่ดิวิชั่น 1 ได้สักที จนเมื่อชายที่ชื่อว่า บิลล์ แชงค์ลี่ย์ เข้ามาคุมทีมได้เพียง 2 ฤดูกาล เขาก็พาทีมขึ้นมาสู่ดิวิชั่น 1 ในฐานะแชมป์ของดิวิชั่น 2 ได้สำเร็จในปีค.ศ. 1962 ซึ่งแชงค์ลี่ย์มีปรัชญาการคุมทีมอย่างง่ายๆ คือ ฟุตบอลแบบพื้นๆ แต่เน้นการส่ง และรับบอล อย่างแม่นยำ เล่นกันเป็นทีมมากกว่า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของทีมลิเวอร์พูลมาจวบจนปัจจุบัน
ขอคุณhttp://www.lfcthailand.com/history.php
ขอคุณhttp://www.lfcthailand.com/history.php
การเริ่มต้นอย่างสง่างาม ของ LIVERPOOL FC
หลังจากตั้งสโมสรก่อตั้งขึ้นมาไม่นาน ลิเวอร์พูลก็โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาโดยตลอด โดยประเดิมสนามนัดแรกด้วยการเอาชนะทีม Rotherham Town ไปถึง 7-1 อีกทั้งการแข่งขันฟุตบอลลีก ของแคว้นแลงคาเชียร์ ซึ่งสามารถเอาชนะทีม Higher Walton ด้วยสกอร์ 8-0 ที่สนามแอนฟิลด์ โดยลิเวอร์พูลลงแข่งทั้งหมด 22 นัด ชนะถึง 17 นัด และได้แชมป์ไปครอง ส่งผลให้ทางสโมสรสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลลีก โดยให้ลงเล่นในดีวิชั่น 2 ก่อน ในฤดูกาล 1893-1894 ซึ่งสโมสรสามารถเก็บชัยชนะได้แบบ 100% (ทั้งหมด 28 นัด) แต่การคว้าแชมป์ลีกดิวิชั่น 2 ในตอนนั้นยังไม่ได้เลื่อนชั้นโดยทันที ต้องไปแข่งนัดชิงดำกับทีมอันดับสองก่อน โดยทีมอันดับสองในขณะนั้นคือ ทีมนิวตัน ฮีธ หรือก็คือทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปัจจุบัน ซึ่งลิเวอร์พูลก็เอาชนะไปได้ 2-0 และได้เลื่อนขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 ได้ในที่สุด ทั้งนี้สโมสรได้เลือกสัญลักษณ์เป็นนกลิเวอร์เบิร์ด ซึ่งเป็นนกแถบทะเลไอริช บริเวญแม่น้ำเมอร์ซี่ โดยที่ปากนกนั้นคาบใบไม้ไว้
ขอบคุณhttp://www.lfcthailand.com/history.php
ขอบคุณhttp://www.lfcthailand.com/history.php
จุดเริ่มต้นที่ถนนแอนฟิลด์
สโมสรลิเวอร์พูลก่อตั้งขึ้นวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1892 โดย John Houlding ซึ่งนักธุรกิจท้องถิ่น และว่าที่นายกเทศมนตรีเมืองลิเวอร์พูล เขาเริ่มจากการเช่าพื้นที่บริเวณถนนแอนฟิลด์ ของเมืองลิเวอร์ุัพูลเพื่อสร้างสนามฟุตบอล และได้ปล่อยให้ทางสโมสรเอฟเวอร์ตันเช่าในปีค.ศ. 1884 จนกระทั่งเอฟเวอร์ตันเข้าเป็นสมาชิิกฟุตบอลลีก และไม่ต่อสัญญาเช่าอีกในปีค.ศ. 1892 เนื่องจากเขาต้องการขึ้นค่าเช่าสนามจาก 100 ปอนด์ เป็น 250 ปอนด์ต่อปี และพยายามจะเข้าบริหารงาน ของสโมสร ทางเอฟเวอตันจึงตัดสินใจย้ายไปใช้สนามอีกฝากของสวนสาธารณะสแตนลี่ย์พาร์ค และใช้ชื่อสนามว่า กูดิสัน พาร์ค มาจนถึงทุกวันนี้ และเมื่อสนามไม่ได้ใช้ประโยชน์ John Houlding จึงจัดตั้งทีมฟุตบอลของเขาขึ้นมาเองโดยให้เพื่อนสนิทอย่าง John McKenna มาเป็นประธานสโมสรและตั้งชื่อทีมว่าลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับอย่างในปัจจุบัน
ขอคุณhttp://www.lfcthailand.com/history.php
ขอคุณhttp://www.lfcthailand.com/history.php
ที่มาของ ฉายา The kop
เดอะค็อปนั้น เป็นชื่อที่แฟนบอลลิเวอร์พูลใช้ขนานนามตัวเอง โดยมีที่มาจากเหตุการณ์การทำสงครามบัวร์ช่วงปี ค.ศ. 1900 ที่เนินเขาเดอะค็อปหรือที่คนท้องถิ่นรู้จักกันในนาม สปิออน ค็อป ซึ่งอังกฤษได้ส่งทหารไปกว่า 300 นายโดยส่วนใหญ่เป็นชาวเมืองลิเวอร์พูล และอังกฤษได้เสียทหารไปเกินกว่าครึ่ง
เออร์เนสต์ เอ็ดเวิร์ตส์ นักข่าวกีฬา ของหนังสือพิมพ์ลิเวอร์พูลเดลี่โพสต์จึงเสนอชื่อ สปิออน ค็อป ให้เป็นชื่อของอัฒจันทน์ตามชื่อเนินเขาลูกนั้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงและเป็นเกียรติในความกล้าหาญของทหารทั้ง 300 นาย จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ซึ่งอัฒจันทน์นี้กลายเป็นอัฒจันทน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในวงการ ฟุตบอล และได้มีการต่อเติมใหม่ในปี ค.ศ. 1928 ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่มีการแข่งขันของทีมลิเวอร์พูล แฟนบอลที่เข้าไปดูการแข่งขันของทีมบนอัฒจันทน์ ก็จะเรียกตัวเองว่า เดอะค็อป (The Kop)
ในปีค.ศ. 1989 ได้เกิดโศกนาฏกรรมจากการถล่มของอัฒจันทน์ขึ้นที่สนามฮิลส์โบโร่ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไป 96 คน จึงมีคำสั่งให้ทุกอัฒจันทน์เปลี่ยนจากแบบยืนเป็นแบบนั่งทั้งหมด และนั่นเป็นการปิดฉากของอัฒจันทน์ สปิออน ค็อป ไป แต่หลังจากนั้น ก็มีอัฒจันทน์ใหม่และใช้ชื่อว่า นิว ค็อป ซึ่งความหมายและเรื่องราวต่างๆ ของความเป็นเดอะ ค็อปนั้นยังคงเหมือนเดิม..
ที่มาwww.lfcthailand.com/history.php
เออร์เนสต์ เอ็ดเวิร์ตส์ นักข่าวกีฬา ของหนังสือพิมพ์ลิเวอร์พูลเดลี่โพสต์จึงเสนอชื่อ สปิออน ค็อป ให้เป็นชื่อของอัฒจันทน์ตามชื่อเนินเขาลูกนั้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงและเป็นเกียรติในความกล้าหาญของทหารทั้ง 300 นาย จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ซึ่งอัฒจันทน์นี้กลายเป็นอัฒจันทน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในวงการ ฟุตบอล และได้มีการต่อเติมใหม่ในปี ค.ศ. 1928 ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่มีการแข่งขันของทีมลิเวอร์พูล แฟนบอลที่เข้าไปดูการแข่งขันของทีมบนอัฒจันทน์ ก็จะเรียกตัวเองว่า เดอะค็อป (The Kop)
ในปีค.ศ. 1989 ได้เกิดโศกนาฏกรรมจากการถล่มของอัฒจันทน์ขึ้นที่สนามฮิลส์โบโร่ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไป 96 คน จึงมีคำสั่งให้ทุกอัฒจันทน์เปลี่ยนจากแบบยืนเป็นแบบนั่งทั้งหมด และนั่นเป็นการปิดฉากของอัฒจันทน์ สปิออน ค็อป ไป แต่หลังจากนั้น ก็มีอัฒจันทน์ใหม่และใช้ชื่อว่า นิว ค็อป ซึ่งความหมายและเรื่องราวต่างๆ ของความเป็นเดอะ ค็อปนั้นยังคงเหมือนเดิม..
ที่มาwww.lfcthailand.com/history.php
วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
Liverpool 5-0 swansae
รายละเอียดระหว่างการแข่งขัน:หลายๆฝ่ายต่างออกมาบ่นกันทั้งๆที่เกมเมื่อคืนถล่มหงส์ขาวเละเท่ะ 5-0 ว่าหากว่า Liverpool นั้นได้แสดงให้เห็นถึงสัญชาติญานนักฆ่าแบบเดียวกันนี้ในเกมกับ St Petersburg เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา เท้าข้างนึงก็คงไม่แหย่เข้าไปในโซนตกรอบของศึก Europa League แบบนี้หรอก หลายๆคนมองว่า Coutinho และ Daniel Sturridge ต่างไม่สามารถลงเล่นได้ในเกมวันพฤหัส แต่เกมนี้ลงไปโชว์เทพช่วยให้หงส์แดงอัดหงส์ขาวได้ขนาดนี้..Suarez นัดนี้เข้าฟอร์มสุดๆเพราะยิงได้หนึ่งและ่ส่งให้เพื่อนทำประตูได้อีกสาม ทำให้แนวรับหงส์ขาวนัดนี้ฝันร้ายแท้ๆ เขาดูโดดเด่นล้นเหลือและฟอร์มการเล่นแบบนี้ทำให้ Liverpool กำชัยชนะได้สบายตีนสุดๆแววออกตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว Steven Gerrard นัดนี้ได้สังหารจุดโทษให้ทีมนำไปก่อนแต่ก็ฉิวเฉียดดีแท้เพราะ Michel Vorm เกือบจะเซฟเอาได้ ในครึ่งหลัง Suarez จัดให้ Coutinho ได้ยิง ก่อนที่สามนาทีต่อมาก็เป็น Jose Enrique ที่ยิงเข้าไปได้อีก ลูกถัดมาเป็น Suarez ที่จบสกอร์ให้ตัวเองได้เล่นเอา Monk และ Bartley กลายเป็นตัวตลกไปเลย แล้วยังไม่จบแค่นี้เมื่อ Wayne Routledge ทำเสียจุดโทษ และเป็น Sturridge ที่ยิงเข้าไปสบายๆอีกหนึ่งเม็ด จบเกมหงส์แดงถล่มหงส์ขาวไป 5-0 พูลสวัสดิ์
ดูไฮไลต์การแข่งขัน http://www.youtube.com/watch?feature=player_detailpage&v=BlrfrImwkrI
ที่มา http://www.hongmarnz.com
http://www.youtube.com
วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ดาวรุ่ง Liverpool fc
1.เคซุส วาคีน เฟอร์นันเดส ซูโซ
เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 1993 ที่ประเทศสเปน เป็นนักฟุตบอลของทีมชาติสเปน และ สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล เล่นในตำแหน่งกองกลาง
วันเกิด 12 มิถุนายน 1992 เชื้อชาติ บราซิลส่วนสูง 172 Cm.
3.ราฮีม ชาควิลล์ สเตอริง
เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 1994 ในเมืองคิงส์ตัน ที่ประเทศจาเมกา เขาได้ลงเล่นตัวจริงกับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ใน ปี 2012 นัดที่เจอกับ วีแกนแอธเลติก โดยเล่นในตำแหน่ง ปีกซ้าย
4.เสม็ด เยซิ้ว
เกิดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 1994 ส่วนสูง 180 cm. น้ำหนัก 72 kg.
5.อัดซาม่า อัดไซดี่
วันเกิด: 1988-8-15 สัญชาติ: โมร็อกโก ส่วนสูง: 178cmน้ำหนัก: 70kg
ดูเสต็ปดาวรุ่งครับ
ขอบคุณ
รายชื่อนักเตะ LIVERPOOL
|
|
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)